ทำไม? ต้องหล่อรูปเหมือนทองคำคุณยายอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน !!!

ทำไมต้องหล่อรูปเหมือนทองคำคุณยายอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง หล่อคนอื่นไม่ได้หรือ ?





*** เพราะคุณยายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ควรบูชา ด้วยคุณธรรม คุณวิเศษและคุณูปการที่คุณยายได้ให้ไว้กับสังคมและพระศาสนา

       คุณยายเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ท่านเป็นผู้ที่สานต่อความปรารถนาของหลวงปู่วัดปากน้ำฯ มายังหลวงพ่อธัมมชโย ผู้มีปณิธานอันแน่วแน่ที่จะเผยแผ่ธรรมะ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปทั่วโลก
       ปี พ.ศ. 2513 เมื่อคุณยายอายุ 61  หลังจากที่หลวงพ่อธัมมชโยบวชแล้ว มีคนมาปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บ้านธรรมประสิทธิ์ไม่สามารถรองรับผู้มาปฏิบัติธรรมได้ทั้งหมด คุณยายจึงรวบรวมคณะศิษย์มาสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งใหม่ ชื่อว่า ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดพระธรรมกาย จนถึงปัจจุบัน คุณยายละสังขารเมื่อ 10 กันยายน 2543 รวมศิริอายุได้ 92
       ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  คุณยายได้ปลูกฝังหมู่คณะบุกเบิกสร้างวัด ให้รักบุญ รักการสร้างความดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรักการปฏิบัติธรรมและหมั่นฝึกฝนตนเองให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในอันเป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง และได้ชี้ปลูกฝังสัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูกต้องในการดำเนินชีวิต ปิดนรก เปิดสวรรค์ให้กับผู้คนมากมาย



       ด้วยดวงใจที่เด็ดเดี่ยวกล้าแกร่งกว่าเพชร ด้วยปัญญาอันชาญฉลาดของคุณยายที่ได้วางกฎระเบียบต่างๆ ในการบริหารวัดช่วยปูพื้นฐานให้หมู่คณะเป็นปึกแผ่นและคอยให้กำลังใจแก่ศิษย์มาโดยตลอด ทำให้ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมาเป็นวัดพระธรรมกายที่มีระบบระเบียบงดงามยิ่งเป็นศรีสง่าแห่งพระพุทธศาสนาและเป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่ชาวโลกทั้งหลาย

*** เพราะความกตัญญูที่มีต่อครูบาอาจารย์

ถ้าไม่มีคุณยาย ก็ไม่มีหลวงพ่อ
ถ้าไม่มีหลวงพ่อ ก็ไม่มีวัดพระธรรมกาย




        จากคำกล่าวนี้ของพระเทพญาณมหามุนี จะเห็นว่า คุณยายมีคุณูปการอย่างสูงต่อวัดพระธรรมกาย และลูกหลานจำนวนนับล้านๆ ที่ต่างหลั่งไหลตามมาสร้างบุญสร้างบารมีจนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน
       ดังนั้น คณะศิษยานุศิษย์ทั่วโลกจึงน้อมบูชาธรรมท่านด้วยการหล่อรูปเหมือนทองคำคุณยายอาจารย์ฯ เมื่อหล่อเสร็จแล้วจะอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ อาคาร 100 ปี คุณยายมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง การหล่อรูปเหมือนท่านเป็นทองคำแท้ทั้งองค์เช่นนี้ เป็นการแสดงความกตัญญูอย่างสูงสุดที่เหล่าศิษยานุศิษย์มีต่อท่าน เพื่อหวังจะให้รูปหล่อนี้เป็นตัวแทนของท่าน ราวกับท่านยังมีชีวิตอยู่ เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงข้อวัตรปฏิบัติและมโนปณิธานอันยิ่งใหญ่ของท่าน อีกทั้งยังเป็นการให้ลูกหลานที่จะตามมาในกาลภายหลัง ได้รับรู้ถึงคุณธรรม คุณวิเศษและดูท่านเป็นต้นบุญต้นแบบในการสร้างบุญสร้างบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

ทำไมต้องหล่อรูปเหมือนเป็นทองคำแท้ ในเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี ?


เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่คูมาโมโต้ เกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น
ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/607024

เหตุการณ์ธรณีพิโรธขึ้นอีกที่ประเทศเอกวาดอร์ (ในทวีปอเมริกาใต้)
ความรุนแรงมากถึง 7.8 ซึ่งถือว่าแรงสุดในรอบหลายสิบปี

เหตุธรณีพิโรธพม่าขนาด 6.9 ศูนย์กลางอยู่ลึกใต้ดิน 135 กิโลเมตร 
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองมัณฑะเลย์

       ช่วงนี้ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยที่เศรษฐกิจตกต่ำ เศรษฐกิจโลกก็ตกต่ำเช่นกัน หนำซ้ำยังมีภัยพิบัติเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เนปาล 7.5 ริกเตอร์ เมื่อเดือน เม.ย. ปีนี้ มหันตภัยแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นรุนแรง 7.3 ริกเตอร์ ที่เอกวาดอร์ 7.8  ซึ่งแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น กับเอกวาดอร์ครั้งนี้ นับเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 40 ปี และที่พม่า 6.9 ริกเตอร์ นำความเสียหายอันมหาศาลมาสู่ประเทศและประชาชนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก หรือการที่มนุษย์เข่นฆ่ากันเอง และที่ใกล้ตัวเราที่สุด ก็คือ การก่อการร้ายวางระเบิดที่สถานที่ราชการหรือที่ต่างๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มายาวนานต่อเนื่อง ช่างน่าสลดสังเวช สิ่งนี้เป็นดัชนีชี้ให้เห็นว่า บุญของคนในประเทศส่วนใหญ่ลดน้อยลง จึงทำให้มีแต่เรื่องแย่ ๆ จนทำให้เศรษฐกิจตกต่ำขัดสนไปทุกหัวระแหง
       ในเมื่อประเทศกำลังประสบภัยที่มีผลกระทบกับเราโดยตรง จะให้นิ่งนอนใจอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร !!!
       และเมื่อเป็นเช่นนี้ ในฐานะที่เราเป็นชาวพุทธก็ต้องมาศึกษาเรื่องราวในพระไตรปิฎกว่า ในครั้งที่เกิดภัยพิบัติทำนองนี้ เขาแก้ปัญหากันอย่างไร ?


       ย้อนไปในยุคที่ชาวเมืองกรุงพาราณสีเกิด “ฉาตกภัย” คือ ภัยที่เกิดจากความแห้งแล้ง  ฝนไม่ตก  เกษตรกรไม่สามารถทำไร่ไถนาได้ เกิดภาวะอดอยากยากจนสัตว์เลี้ยงตลอดจนผู้คนจะล้มตาย เพราะขาดน้ำและอาหาร ในชาตินั้น เมณฑกเศรษฐี  ได้เกิดเป็นมหาเศรษฐีประจำเมือง แต่กำลังจะอดตายกันทั้งครอบครัว เพราะภัยนี้ด้วย แต่ในสภาวะที่กำลังจะอดตายนี้เอง ก็ได้ตัดสินใจถวายข้าวมื้อสุดท้ายของตัวเอง โดยคิดว่าจะยอมสละชีวิตเพื่อแลกกับการให้ทาน เพื่อถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า ซึ่งท่านก็ได้อธิษฐานว่า “ ขอให้อย่าได้ประสบฉาตกภัยในที่ ๆ ตนเองเกิดอีกเลย ตั้งแต่บัดนี้ไป ขอให้สามารถที่จะให้ภัตรแก่ชาวชมพูทวีปได้ทั้งหมด ข้าพเจ้าไม่พึงทำงานเลี้ยงชีพด้วยมือของตนเอง ในขณะที่ใช้ให้คนชำระฉาง ๑,๒๕๐ ฉาง และชำระร่างกายให้สะอาดแล้ว นั่งอยู่ที่ประตูฉางเหล่านั้น มองดูในเบื้องบนเท่านั้น ธารแห่งข้าวสาลีแดง พึงตกลงมาเต็มฉางทั้งหมด และผู้นี้จงเป็นภรรยา ผู้นี้จงเป็นบุตร ผู้นี้จงเป็นหญิงสะใภ้ และผู้นี้จงเป็นทาสของข้าพเจ้า ในสถานที่ ๆ ข้าพเจ้าเกิดแล้วเถิด”
      ในยุคนั้น ถือว่าสาหัสยิ่งกว่าประเทศไทยในยุคนี้ แต่สุดท้ายผลบุญจากการเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อถวายทานของท่านเศรษฐี ก็บันดาลให้เกิดผลบุญอัศจรรย์ คือจากหม้อข้าวที่ไม่มีข้าวเหลือเลย อยู่ ๆ ก็มีข้าวเพิ่มขึ้นเต็มหม้อ แถมตักเท่าไรก็ไม่พร่อง เพราะยังคงเพิ่มขึ้นเต็มหม้อทุกครั้งที่ตัก อีกทั้งยุ้งฉางที่ว่างเปล่า ก็กลับเต็มล้นไปด้วยข้าวเปลือกและพืชพันธุ์ธัญญาหารเหมือนเดิม ฝนฟ้าก็ตกให้ความชุ่มฉ่ำแก่คนทั้งเมือง และชาวเมืองเมื่อทราบข่าว ต่างก็หลั่งไหลมารับเอาอาหารและพันธุ์พืชจากบ้านของท่านเศรษฐี ทำให้ชาวชมพูทวีปทั้งหมดดำรงชีวิตอย่างมีความสุขตลอดชีวิต
       จากเรื่องราวข้างต้นยืนยันให้เห็นว่า “วิกฤติเศรษฐกิจ ต้องแก้ด้วยบุญ” ดังนั้น การทำบุญในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จึงควรทำอย่างยิ่ง เพราะถ้าเราหมดบุญ เราก็จะอดอยากยากจน ฉะนั้นเราควรรีบหาบุญใหญ่ ที่ให้อานิสงส์มากทำ เพื่อจะได้มีกำลังบุญมากพอที่จะฝ่าวิกฤติชีวิตและเศรษฐกิจไปได้

การหล่อพระด้วย “ทองคำ” เป็นเรื่องปกติหรือไม่ ?

พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร

      การการสร้างและหล่อพระเป็นประเพณีตั้งแต่ครั้งโบราณกาล เพื่อให้เป็นเครื่องตรึกระลึกนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ในกาลก่อน  อย่างที่เห็นเด่นชัดในปัจจุบัน ก็คือ หลวงพ่อทองคำ ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ว่า “พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ที่ได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสบุ๊ก เมื่อปี พ.ศ. 2534 ว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หนัก 5.5 ตัน หรือ 5,500 กิโลกรัม เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย ถือเป็นมรดกทางอารยธรรมล้ำค่ายิ่งของพระพุทธศาสนาที่เป็นศูนย์รวมใจของชาวไทยจนถึงทุกวันนี้

        ดังนั้น การหล่อคุณยายอาจารย์ ซึ่งแม้ท่านจะไม่ใช่พระ แต่คุณยายอาจารย์ฯ ท่านเป็นนักบวช ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ จัดเป็นบุคคลที่ควรบูชายิ่งบุคคลหนึ่ง ท่านได้บุกเบิกสร้างวัด สร้างพระแท้ และสร้างคนดีให้เกิดขึ้นมากมาย การหล่อท่านด้วยทองคำขนาดเท่าครึ่งขององค์จริง ซึ่งใช้ทองแค่ประมาณ 1 ตัน  จึงถือเป็นเรื่องปกติของศิษยานุศิษย์ที่มีความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์

ทำไมนิยมนำ ทองคำ หรือรัตนชาติน้ำงาม ชั้นดี มาสร้างพระหรือเจดีย์ ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ ?


ไพ่ทองคำ ที่เกาะมาเก๊า

พื้นทองคำ ที่เกาะมาเก๊า

      เพราะรัตนชาติ และทองคำเป็นธาตุที่ทรงอิทธิพลต่อมนุษย์ เป็นธาตุที่ดึงดูดความสนใจของมนุษย์ได้ดี เนื่องจากสวยและมีมูลค่าสูง ขนาดสิ่งไม่ดีเขายังเอาทองคำแท้ ๆ มาทำเลย อย่างผู้เขียนเคยไปเห็นที่เกาะมาเก๊า เขายังทำไพ่เป็นทองคำ หรืออย่างเข้าไปในบ่อนคาสิโนแหล่งอบายมุขที่ลงทุนเป็นหมื่น ๆ ล้านบาทในมาเก๊า พื้นที่เราเหยียบย่ำ เขาก็ฝังทองคำแท้ ๆ ลงไปจำนวนมาก แล้วให้คนเดินเหยียบไปเหยียบมาเลย

เจดีย์ชเวดากอง

เพชรบนเจดีย์ชเวดากอง


       ดังนั้น การหล่อพระ การสร้างเจดีย์ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งดี ก็ควรทำให้สูงค่า น่าเคารพเลื่อมใสศรัทธา เพื่อดึงดูดให้คนมาสนใจเช่นกัน เพราะตั้งแต่พุทธกาลเขาก็ทำกันเช่นนี้ อย่างอดีตชาติของ พระมหากัจจายนะ ท่านก็ได้ถวาย แผ่นอิฐทองคำ ทำเป็นฐานเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ หรืออย่างโชติกเศรษฐี ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในสมัยพุทธกาล อดีตชาติได้เอารัตนชาติมาประดับเสา บานประตู และกระเบื้องทั้งหมด เพื่อสร้างพระคันธกุฎีถวายพระบรมศาสดา หรือปัจจุบันที่เห็น ๆ กัน ก็คือ ยอดพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ที่มีเพชรแท้อยู่ 5,448 เม็ด มีทับทิม 2,317 เม็ด มีมรกตเม็ดใหญ่อยู่ตรงกลาง และบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่ขนาด 76 กะรัต

รูปหล่อทองคำแท้ คุณยายอาจารย์มหารัตน อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง 

       ดังนั้น การนำทองคำมาหล่อคุณยายอาจารย์ฯ ซึ่งท่านเป็นบุคคลต้นบุญต้นแบบในการทำความดีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันมาตลอดชีวิต และได้สร้างคุณูปการและความเจริญให้กับพระพุทธศาสนา จนมาถึงปัจจุบัน จึงเป็นสิ่งสมควรอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ยังมีอนุสรณ์ที่พระเทพญาณมหามุนีและศิษยานุศิษย์ ได้มีก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงและกตัญญูบูชาธรรมคุณยายอาจารย์ฯ ได้แก่


หอฉันคุณยาย 

สาธุชนหลั่งไหลเข้าวัดมาสั่งสมบุญ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่หอฉันคุณยาย  
   
 หอฉัน เรียกโดยย่อว่า "หอฉันคุณยาย" รองรับพระภิกษุได้มากถึง 6,000 รูป โดยในแต่ละวัน จะมีสาธุชนมาร่วมกันถวายภัตตาหารและน้ำปานะแด่พระภิกษุสามเณร จำนวนกว่า 1,200 รูป ซึ่งประจำอยู่ ณ วัดพระธรรมกาย และยังใช้เป็นสถานที่ต้อนรับพระภิกษุสามเณรอาคันตุกะ และยังเป็นที่รวมของพระภิกษุสงฆ์เพื่อการสวดมนต์และการประชุม เป็นต้น


มหาวิหารคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง

 มหาวิหารคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง มีพื้นที่ใช้ประโยชน์ 2 ชั้น โดยที่ชั้นที่ 1 ได้จัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับผลงานที่คุณยายฯ ได้สร้างและอุทิศไว้ในพระพุทธศาสนา และจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของคุณยายฯ เพื่อบ่งบอกถึงความเรียบง่าย สมถะในการใช้ชีวิตของผู้ที่รักการปฏิบัติธรรม การเป็นผู้สอนธรรมะ และผู้สถาปนาวัดพระธรรมกาย ส่วนชั้นที่ 2 สร้างไว้สำหรับเป็นห้องปฏิบัติธรรม โดยมีรูปหล่อทองคำแท้ของอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ตั้งอยู่ ณ กลางห้องปฏิบัติธรรม

อาคารร้อยปี คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
อาคารร้อยปี คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เพื่อใช้เป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของวัด เป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม เป็นห้องปฏิบัติธรรมของพุทธบริษัทสี่ขนาดใหญ่ เป็นห้องประชุมทางด้านวิชาการทางพระพุทธศาสนาระดับนานาชาติ โดยมีเจตจำนงให้เป็นฐานที่ตั้งด้านวิชาการในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลกและวิธีปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน




อ้างอิงข้อมูล:
1. ร.ลิ่วเฉลิม เฉลิมวงศ์. วารสารอยู่ในบุญฉบับเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558, http://goo.gl/SwOqAC
2. http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=28&p=10
3. ภัยพิบัติแผ่นดินไหว, http://www.thairath.co.th/content/607024
4. ภาพ https://goo.gl/fsBE29

ทำไม? ต้องหล่อรูปเหมือนทองคำคุณยายอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน !!! ทำไม? ต้องหล่อรูปเหมือนทองคำคุณยายอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน !!! Reviewed by Mali_Smile1978 on 07:13 Rating: 5

1 ความคิดเห็น:

  1. กราบถวายกำลังใจแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.